วันหยุด สุดขีด!!

ได้มาแร้ววว

ปฏิทินคนสวยยย

วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

14 ปีบนชีวิตคู่ แหม่ม - บ๊อบบี้

วันนี้เรามีเรื่องราวของเขาทั้งสองมาเล่าให้ฟัง ว่า 14 ปีบนชีวิตคู่ ความรักของพวกเขาเติบโตขึ้นแค่ไหน และที่สำคัญ "อาหาร" เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตได้อย่างไรไปดูกัน


1. ก่อนแต่งงานกัน วาดภาพคุณแม่บ้านและคุณพ่อบ้านในฝันไว้อย่างไร ?
หนูแหม่ม : หนูแหม่มพอทำอาหารได้บ้าง แต่โดยนิสัยจะไม่ทำเพราะเลอะเทอะ แต่หนูแหม่มสามารถจัดการทำความสะอาดบ้านทั้งหมดให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้ คิดว่าเท่านั้นก็เพียงพอ บ๊อบบี้ : ตอนแรกผมคิดว่าหนูแหม่มต้องทำกับข้าวเก่งเหมือนผู้หญิงไทย เรามารู้ตอนที่ไปเที่ยวพัทยา ไปทำงานกลับมาเห็นกับข้าวเต็มโต๊ะนึกว่าเขาทำเอง แต่ที่ไหนได้ เขาซื้อมาเวฟ แต่เราก็ไม่ได้ติดใจตรงนั้น 
บ๊อบบี้ : ผมคิดว่าจะดูแลหนูแหม่ม ให้เขาอยู่บ้านเลี้ยงลูก เราไปทำงานนอกบ้านเหมือนฝรั่งทั่วไป เลยทดลองไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาหนึ่งเดือน ซึ่งทำให้เราเปลี่ยนใจ เพราะหนูแหม่มลำบาก ไม่ได้กินส้มตำ ให้ใครไปซื้ออะไรให้ก็ไม่ได้ เพื่อนก็ไม่มี ตอนแรกเราคิดว่าจะเรียนปริญญาโทที่อเมริกา เลยเปลี่ยนใจลองกลับมาอยู่ที่เมืองไทย ซึ่งบ้านที่เมืองไทยมีทั้งแม่บ้าน คนขับรถ อยู่แล้วสบายก็เลยคุยกับหนูแหม่มว่า เออ ที่นี่ดีนะ น่าจะเหมาะกับเรา
หนูแหม่ม : เอาเข้าจริงๆ เราก็ไม่ได้วาดภาพอะไรมากหรอกค่ะ เพราะแค่ได้อยู่ด้วยกันก็มีความสุขแล้ว


2. สัมพันธภาพรักวันนี้เทียบกับวันแรก ?
หนูแหม่ม : เออ วันก่อนเรายังคุยเรื่องนี้กันอยู่เลย เคยได้ยินคนพูดไว้ว่า ถ้าอยู่กับใครนานๆ แล้วจะรู้สึกรักและอุ่นใจมากขึ้น หนูแหม่มรู้สึกรักบ๊อบบี้กับโฟร์มากขึ้น โฟร์คือหมาที่บ้านค่ะ (หัวเราะ) เรามีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน 
บ๊อบบี้ : เออดี เทียบกับหมาได้ (หัวเราะ) เราก็อยู่กันแบบนี้ เพราะไม่ใช่คู่รักที่ยิ่งหวานยิ่งสวีท เราคบกันเป็นเพื่อนตั้งแต่แรก ไม่ใช่ดอกไม้ถึงทุกวันเกิด ทุกวาเลนไทน์ แต่เรายิ่งรู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนกันมากขึ้น"
3. วิธีดูแลด้านอาหารการกินของทั้งสองคน ?
บ๊อบบี้ : ผมก็พยายามดูแลตัวเอง คุณจะไม่มีทางได้เห็นว่าผมจะซื้อขนมหรือช็อกโกแลตเข้าบ้านแน่นอน หรือกิน อันที่เรากินก็เพราะแหม่มซื้อมาเพราะเราชอบทำอาหารคาว แต่ก็จะพยายามงดอาหารทอดต่างๆ แล้วก็จ้างเทรนเนอร์มาจัดคอร์สออกกำลังกายให้ที่บ้าน
หนูแหม่ม : แหม โทษกันเชียวนะ (ยิ้มกลั้วหัวเราะ)คืออย่างนี้ค่ะ เราเป็นผู้หญิงก็จะชอบขนม ช็อกโกแลต อะไรดูเลิศ ดูเก๋ ดูอร่อย หนูแหม่มก็จะซื้อมา บ๊อบบี้เขาจะชอบทานอาหารคาวเป็นส่วนใหญ่ทุกวันเสาร์เราจะให้แม่บ้านทำก๋วยเตี๋ยว เพราะหนูแหม่มชอบกินอาหารที่เป็นเส้น เพราะเวลาไปกินที่ร้านเครื่องก๋วยเตี๋ยวที่เราชอบมันได้น้อย ก็เลยคุยกับบ๊อบบี้ว่า ก๋วยเตี๋ยวที่ขายในตลาดทุกอย่างเราจะทำกินเองที่บ้าน ทั้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เสาร์หน้าก๋วยเตี๋ยวไก่ อีกสัปดาห์ก็เป็นบะหมี่เป็ดโฟร์ซีซั่นส์ เราก็ซื้อเป็ดมา 2 - 3 ตัว ใส่เครื่องกันเต็มๆ กินให้อิ่มไปเลย อย่าง บะหมี่ปูหมูแดง นี่ทำง่ายมาก เราก็จะใส่ปูเยอะๆ ฟูๆ หมูแดงเยอะๆ บ๊อบบี้เขาชอบหมูแดง กินกันให้อิ่มทั้งบ้านไปเลย การกินบะหมี่แต่ละสัปดาห์เหมือนเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันอย่างเต็มที่ แต่วันอื่นๆ เราก็จะกินมื้อเที่ยงด้วยกันเท่านั้น เพราะต่างคนต่างต้องทำงาน


4. เมนูเดทแรกในวันวาเลนไทน์ ?
บ๊อบบี้ : ตอนนั้นผมพาหนูแหม่มไปเดทที่โอเชียนมารีน่า น่าจะเป็นดินเนอร์แรกที่ผมพาแหม่มไปเดทปกติแหม่มไม่กินซุปครีม วันนั้นเขาเสิร์ฟ ซุปฟักทอง แล้วหนูแหม่มชอบ เขากินหมด เขาชอบ เรายังจำได้
หนูแหม่ม : ทุกวันนี้เราก็ยังทำกินกันอยู่ เพราะหนูแหม่มชอบซุปฟักทอง ส่วนตัวบ๊อบบี้เองเขาจะชอบกินซุปมากเวลาไปกินข้าวนอกบ้านเขาก็จะสั่งซุปกับขนมปัง เหมือนอย่างคนไทยกินข้าวกับแกง ถ้าเขาได้กินซุปกับขนมปัง มันก็จบ
5. อาหารสำคัญกับสัมพันธ- ภาพครอบครัวอย่างไร ?
หนูแหม่ม : หนูแหม่มรู้สึกเอ็นจอยกับการกินข้าวกับบ๊อบบี้บางวันเราไปทำงานมาเหนื่อยทั้งคู่ ไม่ได้ทำกับข้าวอะไร ก็กินนมกันคนละกล่องด้วยกัน แค่นั้นก็มีความสุขมากแล้ว บางทีบ๊อบบี้เข้าออฟฟิศ หนูแหม่มก็ถือปิ่นโตไปกินข้าวด้วย
บ๊อบบี้ : ผมจะเจอแหม่มตอนก่อนออกไปทำงานกับตอนเย็นเพราะฉะนั้นเวลาที่เรากินข้าวด้วยกันมันเลยสำคัญ เพราะเป็นเวลาที่เราได้พูดคุยกัน


6. เปรียบคู่ของเรากับอาหาร คิดว่าเหมือนเมนูไหน ?
หนูแหม่ม : ต้อง ส้มตำไทยกับเนื้อวากิวย่าง นี่ละค่ะโคตรเจ๋งเลย โอ๊ย เมนูนี้มันเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ มันอร่อยมาก เดือนหนึ่งเราจะทำกินกันที่บ้านประมาณสองครั้ง มันแซบ อร่อยบอกไม่ถูก
บ๊อบบี้ : ผมชอบเอาเนื้อวากิวมาโรยเกลือ พริกไทย น้ำมันมะกอก แล้วก็เอาไปย่างบนกระทะ โรยโชยุนิดหนึ่งแล้วก็มิริน แล้วเร่งไฟขึ้น ไฟก็จะลุก จัดใส่จานแล้วก็กินกับส้มตำ หนูแหม่มเขาจะชอบย่างแบบสุก แต่ผมจะต้องเป็นแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ แล้วก็กินกับส้มตำ จะว่าไปส้มตำก็เหมือนหนูแหม่ม เพราะมีหลายรสชาติ หลายอารมณ์ 
หนูแหม่ม : ใช่ ส้มตำมันมีหลายตำนะ ทั้งตำไทย ตำไทยใส่ปู ตำปูปลาร้า ตำซั่ว ตำป่า ฯลฯ หนูแหม่มก็กินได้ทุกตำเลยนะ อารมณ์หนูแหม่มก็เหมือนแบบนั้นละ ส่วนบ๊อบบี้เขาก็เหมือนเนื้อย่าง คือ แมนๆ ดี อร่อยด้วย ไม่ซับซ้อน เหมือนวิธีปรุงที่ปรุงง่าย คู่เรามีความสุขกับการกิน เหมือนตอนนี้ทำรายการ คู่เลิฟตะลอนทัวร์ กันก็สนุกมาก 
7. เล่าเรื่องคู่รักตะลอนทัวร์ให้ฟังหน่อย ?
หนูแหม่ม : ตอนนั้นหนูแหม่มอยากทำรายการอาหารแบบกึ่งเที่ยว มีเชฟหรือเกสต์คอยสอนทำอาหารในรายการคู่กันไป เลยลองปรึกษากับทางคุณนิด -อรพรรณดู เธอก็บอกว่า บ๊อบบี้เหมาะ เพราะบุคลิกได้ แล้วก็ชอบกินด้วย ซึ่งหนูแหม่มก็เห็นว่าเป็นโอกาสดี เพราะตอนนี้เราอายุเท่านี้ยังพอมีแรงที่จะตะลอนไปเที่ยวด้วยกันได้ เหมือนเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้เดินทางไปต่างถิ่นด้วยกัน ยังคุยกับบ๊อบบี้เลยว่า ถ้าเราแก่กว่านี้เราก็คงทำแบบนี้ไม่ได้ 
บ๊อบบี้ : ทำรายการนี้สนุกดี แล้วก็เป็นโอกาสดีมาก ทำให้ผมได้ไปเที่ยวกับหนูแหม่ม ได้รู้จักอาหารไทยมากขึ้น แล้วก็ได้กินอะไรแปลกๆ
หนูแหม่ม : ต้องบอกว่าถ่ายรายการนี้เหนื่อยมากนะคะ แต่พอได้ทำกับบ๊อบบี้ก็กลายเป็นสนุก ทำให้เขาได้ฝึกกินอาหารไทย แล้วก็เข้าใจอาหารไทยมากขึ้น บางครั้งกินแล้วท้องเสียเข้าโรงพยาบาลก็มี แต่เขาก็ยังสนุกที่จะทำ


8. คาดหวังกับชีวิตคู่ในวันข้างหน้าอย่างไร ?
หนูแหม่ม : แน่นอนว่าคนเราก็คงหวังว่าเราจะอยู่ด้วยกันนานที่สุด มีภาพเราแก่เฒ่าคู่กันเป็นตาเป็นยาย ก็ยังเป็นภาพที่ฝันไว้ แต่จากนี้ไปถึงวันนั้นมันไม่มีใครรู้ว่าเราจะเจออะไร  
บ๊อบบี้ : เราแพลนนะ ซื้อบ้าน ซื้อที่ดินอะไรไว้ เพื่อจะอยู่ด้วยกัน แต่เราก็ไม่ได้กะเกณฑ์อะไรมาก ดูกันไปเป็นวันๆ ดีกว่า
หนูแหม่ม : นั่นเป็นแพลนอีกอันหนึ่งค่ะ ก็คือเราจะแพลนในแต่ละวันว่าถ้าเราเจอปัญหา เราจะรับมืออย่างไร กับวันแต่ละวันที่จะเดินไปถึงจุดหมายที่ฝันไว้นั่นละค่ะเราโชคดีที่ไม่มีลูก จึงไม่ต้องกังวลกับตรงนั้น อย่างมากเราก็แค่ห่วงซึ่งกันและกัน แล้วก็น้องโฟร์ (หัวเราะ)



9. คิดว่า "ความสุข" ในชีวิตคู่อยู่ที่ไหน เขาทั้งสองตอบเพียงประโยคสั้นๆ โดยมีหนูแหม่มเป็นผู้กล่าวว่า "หนูแหม่ม" เชื่อว่าชีวิตที่มีความสุขคือ กินอิ่ม นอนอุ่น เท่านั้นก็พอแล้วค่ะ" และมีคำยืนยันหนักแน่นของบ๊อบบี้ว่า "อืม...ใช่" เป็นการปิดท้ายบทสนทนาสำหรับ 9 คำถามในวาเลนไทน์ 2012 นี้

โสดแบบไหน..โสดแบบคุณ

                                            single-too-long-in-valentine
โสดแสนดี
โสดประเภทนี้มีแต่ความหวังดีและเสียสละเพื่อคนที่รักตลอดเวลา ตัวเองจะเจ็บช้ำแค่ไหนก็ยอม แค่ขอให้เขาหรือเธอมีความสุขก็พอ ลักษณะเด่นของโสดกลุ่มนี้คือรักกี่ทีก็ช้ำ เพราะมัวแต่เป็นคนดี ไม่ดูตาม้าตาเรือ รู้ตัวอีกทีเขาก็มีคนใหม่ไปแล้ว
[เพลงประจำกลุ่ม] ผิดตรงไหน-เบิร์ด ธงไชย , คนดีไม่มีที่อยู่-POTATO , ฝากดูแลแทน-มิ้น-มาลีวัลย์




โสดเจียมตัว
โสดประเภทนี้เป็นคนดีอีกแบบ แต่ดีน้อยลงมาหน่อย ดีแบบเจียมเนื้อเจียมตัว มองตัวเองต่ำต้อยด้อยค่าอยู่ตลอดเวลา ไม่หวังอะไรมากมาย แค่ขอเป็นจุดหนึ่งเล็กๆเท่าตับมดที่ได้รักเธอก็พอ (มีคนอื่นผ่านมามากมายแค่ไหนก็ไม่รัก ขอหัวปักหัวปำอยู่กับเธอคนเดิม)
[เพลงประจำกลุ่ม] นอกสายตา- แคทรียา อิงลิช , ขอเป็นตัวเลือก-กะลา , ดอกหญ้า-บี น้ำทิพย์ , นิดนึงพอ- Friday I’m In Love , ก็พอ-เต็ม วุฒิสิทธิ์






โสดโดนสาป
โสดประเภทนี้มองชีวิตว่ามีกรรม ฟ้าดินกลั่นแกล้ง สวรรค์ไม่มีตา เทวดาสาปส่งไม่มีใครรัก ไม่มีคนสนใจ มองไปทางไหนก็เศร้า ชีวิตรันทด แบกรักมาเต็มไหล่แต่ไม่มีใคร ต้องการ ฮือๆ ชาตินี้มันเศร้า (ชาติหน้าค่อยเอาใหม่)
[เพลงประจำกลุ่ม] คนที่ไม่มีใครต้องการ-นิโคล , คนไม่มีแฟน-เบิร์ด ธงไชย , กีรติ-โบ สุนิตา , ใครๆก็ไม่รัก-เจนนี่-คอรี่
                               Valentine-glitter-26


โสดปากแข็ง
โสดประเภทนี้ไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ไม่มีใครรักก็ไม่เป็นไร ฉันอยู่ของฉันได้สบายๆ ฉันไม่แคร์ ฉันไม่แคร์ (แต่ใครจะรู้ในใจเขาและเธอองุ่นเปรี้ยวหรือเปล่า?)
[เพลงประจำกลุ่ม] ฉันไม่เป็นไร-SEVEN , สบายดี-ป้าง นครินทร์




โสดอาฆาต
โสดกลุ่มนี้มีความอาฆาตพยาบาทสูง รักแรง แค้นแรง ทำฉันเจ็บช้ำได้ จากไปก็อย่าหวังว่าจะได้มีความสุข จะตามสาปส่งพยาบาททุกชาติไป (ส่วนใหญ่โสดกลุ่มนี้มักเป็นชายตรีที่มีเลือดร็อคสูง ดูแมนนิดนึง ถ้าเป็นหญิงก็จะเป็น หญิงโหด นิ่มๆ ติ๋มๆ จะไม่นิยมเข้ากลุ่มนี้)
[เพลงประจำกลุ่ม] เวรกรรม-พงษ์พัฒน์ , แค้นต้องชำระ-อ่ำ อัมรินทร์ , อีกหน่อยก็ทิ้งกันเอง-เจมส์ , อุทิศ-แอม เสาวลักษณ์




โสดใฝ่สูง
โสดประเภทนี้แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับโสดเจียมตัว มีนิสัยและ การมองโลกที่ตรงข้ามกัน มีความทะเยอทะยานและความตั้งใจ ใฝ่ฝัน สูงส่ง ถือคติความรักไม่ใช่เรื่องไกลตัว เธอหรือเขาอยู่สูง แค่ไหนก็ต้องเอื้อมมาให้ได้ แม้จะถูกคนในสังคมส่วนใหญ่มองว่า เป็นหมาวัดที่ชอบเด็ดดอกฟ้าก็ยอม
[เพลงประจำกลุ่ม] ดาวประดับฟ้า-แมว จิระศักดิ์ , หมาเห่าเครื่องบิน-โลโซ , เครื่องบิน-บิ๊กแอส




สดเจ็บ(แล้ว)ต้องจำ
โสดกลุ่มนี้เป็นพวกเข็ดขยาดกับความรัก เนื่องมาจากเคยมีประสบการณ์ที่จบลงแบบ ไม่สวย (มักตกเป็นฝ่ายแห้วหรือเจ็บ) ถือคติเจ็บแล้วต้องจำ จะไม่ช้ำ ไม่รักใครอีกแล้ว ขออยู่เป็นโสดไปจนตาย (หรือจนกว่าจะมีคนมาให้รักใหม่อีกครั้ง!)
[เพลงประจำกลุ่ม] จะไม่กลับมาอีกแล้ว-โบ สุนิตา , กลับไปก็ไม่รักเธอเหมือนเดิม-ทาทา ยัง , หมดแล้วหมดเลย-อินคา , ไม่มีหัวใจทำไมไม่บอก-โบ สุนิตา




โสดมั่นใจ
โสดกลุ่มนี้มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก สามารถพลิกผันสถานการณ์อกหักให้เป็น ทางเลือกได้ มองโลกมุมใหม่ที่ไม่ทำให้ตัวเองเจ็บช้ำ…ดีแล้วที่เลิกกันไป ถึงจะเป็นโสดก็ ไม่เป็นไร ฉันมั่นใจ ฉันไม่ผิดๆ
[เพลงประจำกลุ่ม] ไม่รักดี-อุ๊ หฤทัย , โธ่เอ๊ย..เด็กเด็ก-อุ๊ หฤทัย




โสดพยายาม
โสดกลุ่มนี้มีเป้าหมายชัดเจนว่าไม่อยากเป็นโสด ฉะนั้นจึงมี ความพยายาม กระตือรือร้น และลงมือทำเพื่อให้พ้นจากสถานะนี้ โดยเร็ว เป็นกลุ่มนักปฏิบัติ ถือคติไม่ลงทำมือก็ไม่ได้มา (แต่ยังไม่เข้าข่ายเกินงาม) เปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่ของโสดกลุ่มนี้เป็น สาวยุคใหม่ มีความมั่นใจพอตัว (ไม่สวยไม่แนะนำให้เข้ากลุ่ม)
[เพลงประจำกลุ่ม] รบกวนมารักกัน-ทาทา ยัง , ผ้าเช็ดหน้า-ไทรอัมพส์คิงดอม , บุษบา-นิโคล




โสดยังหวัง
โสดกลุ่มนี้มีความหวังเป็นแรงบันดาลใจ ถือคติชีวิตนี้ไม่สิ้นหวัง ชอบการรอคอยค้นหา วันนี้ไม่เจอไม่เป็นไร พรุ่งนี้ยังไหว..รอได้ๆ โดยพื้นฐานเป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่มีความพยายามไม่เท่ากลุ่มก่อนหน้านี้ ไม่ชอบการลงมือปฏิบัติ แต่ชอบตั้งหน้าตั้งตารอคอย (กี่ชาติผ่านไป ไม่เคยสิ้นหวัง!)
[เพลงประจำกลุ่ม] ทางเดินแห่งรัก-แอม-ดา , ใครสักคน-มาช่า , ขอใครสักคน-ลีโอ พุฒ , ยังรอคอยเธอเสมอ-พรู


ส่วนคนโสดไม่จริง…ก็อย่าลืมจัดคิวให้ลงตัวน๊ะจ๊ะ

วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ขอเป็นกำลังใจให้ความรักทุกคู่

" โสด" ก็ดีเหมือนกันนะจะบอกให้!!



                                             




เราไม่ได้พูดถึงการอยู่เป็นโสด เพราะถึงแม้คุณจะยังมีแฟนอยู่ การใช้เวลาอยู่คนเดียวเสียบ้างคือสิ่งที่คุณ "ต้อง" ทำ
แน่นอน คุณสนุกกับการได้สังคม ได้ทำงานที่คุณรัก และอยู่กับคนที่คุณรัก แต่ในขณะเดียวกัน ผู้คนที่อยู่รอบข้างคุณอาจทำให้คุณต้องทำสิ่งที่ไม่ใช่ตัวคุณเลยก็ได้ และนานวันเข้าตัวตนของคุณก็อาจเปลี่ยนแปรไป จนทำให้คุณลงเอยด้วยการใช้ชีวิตที่ใช่ตัวคุณเลย ฉะนั้น หันหลังให้กิจกรรมอันแสนยุ่งเหยิงและผู้คนที่รายล้อมอยู่เสียบ้าง แล้วมาทำความคุ้นเคยกับตัวเองอีกครั้ง มองความโดดเดี่ยวในมุมมองใหม่ แล้วคุณจะพบประโยชน์หลายอย่างจากการอยู่คนเดียว
     ทำไมต้องอยู่คนเดียว
       คุณได้ผ่อนคลาย การอยู่คนเดียวทำให้คุณผ่อนคลาย และสามารถควบคุมของตัวเองได้ เพราะมันให้โอกาสคุณวางปัญหาต่าง ๆ ได้ชั่วขณะ และรู้สึกสบายๆ กับตัวเอง

       คุณเรียนรู้ที่จะเป็นอิสระ การเพิ่มเวลาอยู่กับตัวเองจะพัฒนาสำนึกที่มั่นคงต่อตัวเองและวิธีที่คุณจัดการกับสิ่งต่าง ๆ จะไม่มีอะไรที่คุณไม่สามารถทำได้อีกต่อไป

       คุณจะมองสิ่งต่าง ๆ ชัดเจนขึ้น การมองเวลาในแต่ละวัน สัปดาห์ และแต่ละปีพร้อมกับการใคร่ครวญว่า ชีวิตคุณกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน เมื่อปราศจากอิทธิพลจากคนอื่น คุณจะเป็นอิสระที่จะประเมินใหม่ว่า อะไรสำคัญต่อคุณ และวางตัวเองบนเส้นทางของที่เหมาะสม

       คุณจะรื่นรมย์กับการอยู่กับคนอื่นมากขึ้น ถ้าคุณไม่ค่อยนิยมอยู่กับตัวเองมากนัก อย่างน้อยก็ลองนึกดูสิว่า หลังจากอยู่คนเดียว การอยู่กับคนอื่นจะมีความหมายมากขึ้น...ใช่มั้ย?

       คุณได้ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ บางทีส่วนที่ดีที่สุดของการอยู่คนเดียวก็คือ คุณจะได้เลือกหนังที่อยากดู กินอะไรที่อยากกิน เมื่อคนอื่นอยู่กับคุณ พวกเขาก็จะมีอิทธิพลต่อรายละเอียดของชีวิตคุณในบางระดับ ตั้งแต่ร้านอาหารที่จะกิน ไปจนถึงการตัดผมทรงใหม่ เมื่อไม่ต้องตอบคำถามใคร และไม่ต้องใส่ใจความรู้สึกของใคร เวลาอยู่คนเดียวคือโอกาสที่จะทำทุกอย่างที่คุณชื่นชอบ

     ทำอะไรดี
           โดยหลัก ๆ ก็คือการเปลี่ยนจุดสนใจจากคนอื่นมาที่ตัวเองสักระยะหนึ่ง คุณอาจเริ่มต้นสักวันละ 15 นาที ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็นการอยู่คนเดียวตลอดวัน และนี่คือสิ่งที่แสนรื่นรมย์สำหรับยามอยู่ตัวคนเดียว

       ออกกำลัง การออกกำลังกลางแจ้งที่พาคุณไปที่ไหนสักแห่ง เช่น วิ่ง เดิน ขี่จักรยาน ตีกอล์ฟ หรือขี่ม้า จะให้ความสดชื่นเป็นพิเศษ เพราะมันให้ความรู้สึกของการเป็นอิสระอย่างแท้จริง

      ไปดูของเก๋ ๆ ไปร้านขายซีดี ไปดูของแต่งบ้านสวยๆ หรือแม้แต่เสื้อผ้าใหม่ ๆ ถ้าคุณสนใจอะไรเป็นพิเศษ ก็ใช้เวลาตลอดวันจมดิ่งอยู่กับมันได้ตามสบาย

      เข้าหาธรรมชาติ ไปสวนสาธารณะ หามุมสบาย ๆ ที่จะไม่พบคนรู้จัก ดื่มด่ำไปกับสภาพแวดล้อมและพยายามไม่คิดถึงอะไรเลย

      อยู่บ้าน ดึงปลั๊กโทรศัพท์ออก และทำอะไรก็ตามที่ต้องทำแต่ไม่มีเวลาสักที ตั้งแต่กวาดลานบ้านไปจนถึงล้างรถ ทำอะไรให้สำเร็จสักอย่าง สิ่งที่ดีที่สุดก็คือเมื่อคุณทำมันเสร็จลง คุณจะได้ความอิ่มเอมใจที่สามารถจัดการขีดฆ่ารายการที่ต้องทำออกไปได้อย่างหรือสองอย่าง...ในที่สุด

      ทำงานสร้างสรรค์ อย่ากังวลว่าต้องเก่งกาจในสิ่งเหล่านี้ แค่สนุกไปกับการได้วาดภาพ ถ่ายรูป หรือเล่นดนตรีที่ไม่ได้เล่นมานานแล้วก้พอแล้ว

    โดดเดี่ยวแต่ไม่เดียวดาย
          ไม่ว่าคุณจะเริ่มการอยู่คนเดียวด้วยการไปเดินเที่ยวห้าง หรือการหลีกลี้หนีคนอื่นไปอยู่ป่าตลอดช่วงสุดสัปดาห์ แค่บอกตัวเองว่า...ถึงคราวหาเวลาให้ตัวเองได้แล้ว หยุดคิดว่าโลกจะเป็นอย่างไรเมื่อไม่มีคนอื่น แต่คิดเสียใหม่ว่า คุณอาจค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้ก็คราวนี้แหละ 


ที่มา : http://women.thaiza.com

จีบเด็กอย่างไร..ให้ตัวเองไม่ดูแก่??

คงไม่ใช่เรื่องแปลกนัก กับเรื่องรักต่างวัย จะจีบเด็ก มีแฟนเป็นเด็ก ก็อยู่ที่เราวางตัวนั่นแหละ

       



      แต่งตัวให้ดูดี
         แน่นอนว่าผู้ชายมากกว่า 90% ยังไงก็มองผู้หญิงที่รูปลักษณ์ภายนอกก่อนเป็นอันดับแรก เพราะว่ายังไงหน้าตาก็เป็นสิ่งที่เราสังเกต เห็นได้เป็นสิ่งแรก พอเห็นว่าหน้าตาน่ารักจึงเกิดความรู้สึกอยากรู้จัก มีผู้ชายน้อยคนมากๆที่จะมองผู้หญิงที่นิสัยก่อนหน้าตา

         ดังนั้นสาวๆอย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนมากเกินไปซะล่ะ คุณไม่จำเป็นต้องสวยตะลึงอย่างดารา อะไรแบบนั้น คุณสามารถดูสวยใน แบบของคุณเองโดยการกินอาหารดีๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย หมั่นรักษาผิวพรรณ เพื่อให้ผิวหน้าผิวกายสดใส ทำให้ดู อ่อนกว่าวัยได้ รวมไปถึงการแต่งหน้าและแต่งตัว แต่งหน้าก็ไม่ควรให้เข้มมาก และเสื้อผ้าควรที่จะเหมาะกับสัดส่วนของเรา ที่เราใส่ แล้วดูดี ไม่แก่เกินไป หรือเป็นทางการเกินไป อย่าลืมว่าเราอยากมีแฟนเด็กนะ ไม่ได้อยากมีแฟนเสี่ย สิ่งสุดท้ายคือ ความมั่นใจใน ตัวเอง จะช่วยให้คุณดูเปล่งประกายและเป็นที่สังเกตได้ ผู้หญิงมั่นใจยังไงก็สวย...

      ทำตัวให้ร่าเริงแจ่มใส
          ผู้ชายที่เราไปสัมภาษณ์มากกว่าครึ่ง มักจะชอบผู้หญิงที่ร่าเริง ยิ้มแย้ม แจ่มใส หัวเราะเก่งๆ แต่ไม่ใช่มากเกินจนเหมือนเสียสติ นอก เหนือที่ผู้ชายจะชอบเข้าหาผู้หญิง น่ารักๆ แล้วผู้ชายก็ชอบที่จะ หยอกล้อกับผู้หญิงที่ร่าเริงแจ่มใส ผู้หญิงติ๊งต๊อง ทำตัวโก๊ะๆ หน่อย โดยเฉพาะกับผู้ชายที่ยังหนุ่มๆ อยู่เพราะเขาชอบมองว่าผู้หญิงแบบนี้เป็นผู้หญิงที่มีสเน่ห์ และสามารถเข้าถึงได้ง่าย ยิ่งถ้าได้พูดคุย แล้วสนุก อายุมากกว่าก็ไม่ใช่ประเด็นที่นึกถึงอีกเลย ดังนั้น สาวๆที่อยากคบเด็กๆ ละก็ลองเปิดใจให้มากขึ้นออกไปสนุกกับเพื่อนๆ ดูบ้าง แทนที่จะอุดอู้อยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ถ้าเกิดมีหนุ่มๆ มาแซวคุณก็หันไปรับส่งมุขกับเขาสักหน่อยก็ได้ แทนที่จะทำหน้าบึ้ง ตึงใส่อย่างที่เคยทำ

      อย่าวางตัวเป็นพี่
         สิ่งสำคัญคือคุณต้องไม่วางตัวกับเขาเป็นพี่มากเกินไป หมายความว่าไม่ควรไปเรียกร้องความเคารพ หรือแสดงกิริยาที่เป็นการตำหนิ ติเตียน บงการ ควบคุมเขามากเกินไป คุณควรเข้าหาผู้ชายในลักษณะเดียวกับที่คุณเข้าหาเพื่อนรุ่นเดียวกับคุณนั่น แหละถึงแม้ผู้ชาย คนนั้นจะอายุน้อยกว่าก็ตาม ถ้าคุณเข้าหาผู้ชายคนนั้นแบบที่คุณเป็นพี่แล้วเขาเป็นน้องชายตัวแสบ เพื่อที่คุณจะได้เจ้ากี้เจ้าการ ทำ ตัวซีเรียสกับทุกเรื่อง รวมทั้งจู้จี้จุกจิกกับสิ่งต่างๆ ที่เขาทำมากไปเพราะนั่นยิ่งแสดงให้เห็นว่าความคิดคุณโตกว่า และขัดแย้งกับนิสัย เด็กๆของเขา และเขาจะเข้าใจว่าคุณกำลังมาบงการชีวิตซึ่งคงไม่ดีแน่ และผลลัพธ์คือ เด็กหนุ่มที่คุณมองไว้จะมองคุณไม่มากเกิน ไปกว่าคำว่า "พี่สาว" นั่นเอง

        ดังนั้น การใช้วิธีการเข้าหาทีละน้อยๆ เข้าไปแบบสบายๆ เหมือนเพื่อนกันทำให้เขาไว้ใจเราในระดับนึงก่อนที่เราจะดำเนินการบุกต่อ ค่อยๆ สังเกตความคิดความต้องการของเขาดูว่า เขาเริ่มจะจริงจังกับความสัมพันธ์อย่างไร แค่ไหน เขาเริ่มเปิดใจพูดคุยเรื่องส่วนตัว มากขึ้นหรือไม่ แบบนี้เขาจะสบายใจที่จะผูกสัมพันธ์กับคุณมากขึ้น อีกอย่างหนึ่งคือเวลาพูดคุยกับเขา ใช้สรรพนามแทนตัวเองและ เขาว่า "ฉัน" "แก" แบบนี้ก็ได้แทนที่จะใช้คำว่า "พี่" ซึ่งจะทำให้เกิดระยะห่างแบบพี่น้องมากขึ้น

      เป็นช้างเท้าหลัง
         ด้วยลักษณะของเพศชายที่ชอบปกป้องผู้ที่อ่อนแอกว่า ชอบที่จะเป็นผู้นำ และบางครั้งอาจจะดูเห็นแกตัวสักหน่อยก็คือจะไม่ชอบ ผู้หญิงที่เข้มแข็งกว่า ตัวเอง หรือเก่งกว่าตัวเอง ไม่ว่าจะทางกายหรือหน้าที่การงานก็ตาม ดังนั้นถ้าคุณแสดงออกว่าคุณสู้ผู้ชายได้ และไม่ต้องการเขา ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะรู้สึกแขยงและเขาก็จะไม่อยากดูแลให้ความรักคุณอย่างคน รักได้ แต่มันก็มีวิธีง่ายๆก็คือ ถึงแม้ว่าคุณจะรู้มาก รู้เยอะ แต่บางครั้งก็สงบคำพูดไว้บ้างก็ได้ แกล้งทำเป็นไม่รู้เสียบ้าง แทนที่จะทำเป็นรู้ไปหมดซะทุกอย่าง ลอง ให้ผู้ชายเป็นฝ่ายนำบ้าง ส่วนคุณก็อ้อนเขาบ้างก็ได้ ถึงจริงๆ คุณจะอายุเยอะกว่าเขา แต่เขาก็สามารถมองคุณเป็นคนรักของเขาได้ ถ้าเขารู้สึกได้ว่าคุณต้องการเขา ต้องการการปกป้องดูแล ต้องการคนช่วยตัดสินใจ และต้องการความอบอุ่นจากเขา

      ตีสนิทเพื่อนเขา
         เพื่อนถือว่าเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้ชายหลายๆคนเลยทีเดียว ดังนั้นความคิดเห็นจากเพื่อนชายก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ หนุ่มๆ เหมือนกันเวลาที่เขาจะตัดสินใจทำอะไรหรือเลือกคบกับใคร จะเห็นได้ว่าหลายๆคู่ที่แฟนกับกลุ่มเพื่อนชายไม่ถูกกัน คู่ๆนั้นมัก จะเดินจูงมือกันต่อไปได้ไม่ไกลนัก ดังนั้นลองเข้าทางเพื่อนเขาก็ ได้ ดูว่าพวกเขาสนุกสนานเฮฮาอะไรกัน พยายามเข้าไปมีส่วนร่วม เล็กน้อยให้ดูแบบไม่น่าเกลียดหรือดูเหมือนสอดรู้สอด เห็นมากเกินไป เปิดใจยอมรับว่ากลุ่มเพื่อนชายของหนุ่มที่คุณสนใจเป็นอย่าง ไร เพื่อที่เพื่อนของเขาจะได้ยอมรับในตัวคุณเช่นกัน แบบนี้อาจจะช่วยให้คุณเข้าใกล้เขาโดยที่มีเพื่อนชายของเขาคอยเป่าหูให้ด้วย แต่อย่าสนิทกับเพื่อนชายของเขาคนใดคนหนึ่งมากเกินไปล่ะ เพราะอาจจะเกิดการเข้าใจผิดได้

      เป็นตัวของตัวเอง
        ถึงแม้ว่าข้อก่อนจะบอกให้คุณแต่งตัวเด็กๆ ทำตัวติ๊งต๊องอะไรก็ตามที แต่พื้นฐานของความเป็นตัวเองด้วย คุณควรสำรวจตัวเองด้วยว่า เป็นคนมีพื้นฐานนิสัยแบบไหน ชอบอะไร ไม่ชอบอะไรแล้วนำมาปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองมากที่สุด ปรับปรุงเล็กน้อยน่าจะดีกว่า เปลี่ยนตัวเองไปเลย แล้วต้องฝืนตัวเองไม่ควรฝืนทำเพราะอยากมีแฟนเด็กจนตัวสั่น ทำแอ๊บแบ๊ว เฟคใส่เขา เพราะยังไงเขาก็จะรู้ แล้วก็เล่นกับคุณได้สักพัก จากนั้นเขาก็จะเบื่อ แล้วตัวคุณเองก็คงอึดอัดใจด้วยเช่นกัน ดังนั้น อย่าลืมความเป็นตัวของตัวเอง ดีที่สุด แล้ว

      ข้อดีและข้อเสียของการมีแฟนเด็ก          
           ข้อดี            1. ทำคุณรู้สึกตัวเองเด็กลงไปด้วย
            2. ทำให้ชีวิตมีสีสัน สนุกสนานมากขึ้น
            3. ทำให้คุณเครียดน้อยลง และมองเห็นความหวังใหม่ๆในชีวิตเสมอ
            4. ลืมเรื่องหมดสมรรถภาพกับเรื่องบนเตียงไปได้ โดยเฉพาะเด็กหนุ่มอายุ 18-26 คึกสุดๆ

          ข้อเสีย            1. อาจได้ความสัมพันธ์ที่ไม่จริงจัง
            2. มุมมองการใช้ชีวิตแตกต่างกัน
            3. คุณอาจเหนื่อยกับการติดเกม ติดการ์ตูน และไม่สามารถให้คำปรึกษาชนิดเข้มข้นได้
            4. ต้องรับมือกับเสียงแซว เสียงปฏิเสธ จากคนรอบข้างเมื่อรู้ว่าคุณคบเด็ก
            5. ต้องอดทนรอเขาโตถ้าหากคุณต้องการลงหลักปักฐานจริงจัง

ของขวัญสุดฮิต..ในวันวาเลนไทน์



                                 



เข้าเดือนแห่งความรักกันแล้ว คนที่กำลังมีความรักก็คงเริ่มมองหาของขวัญที่สื่อความหมายดีๆ ที่จะมอบให้กับคนพิเศษหรือคนที่รู้สึกดีๆ ด้วยแล้ว มาดูกันว่าให้อะไร จะสื่อความหมายถึงอะไรบ้าง
      ดอกไม้
 ให้ความหมายของการบอกรักได้ดีที่สุด ที่ฮิตสุดเห็นจะเป็น

         - กุหลาบแดง หมายถึง ความรักและความปรารถนา เป็นดอกไม้ของกามเทพ เป็นสิ่งนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับ
         - กุหลาบขาว หมายถึง ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์ ความเงียบสงบ และนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับเช่นเดียวกับดอกกุหลาบแดง
         - กุหลาบสีชมพู หมายถึง ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์ที่สุด
         - กุหลาบสีเหลืองหรือสีส้ม หมายถึง ความรักร้อนแรงและยาวนาน ไม่จืดจาง หวานชื่น และมีความสุข
         - กุหลาบตูม หมายถึง ความรักและความเยาว์วัย
         - กุหลาบบาน หมายถึง ความรักที่กำลังเบ่งบาน ความอ่อนหวาน สดชื่น

         สําหรับคนที่อยากได้อะไรแตกต่างยังมีดอกอื่นๆ อาทิ
        - ดอกคาร์เนชั่นสีแดง หมายถึง รักอย่างสุดซึ้ง,
        - ดอกลิลลี่สีขาว หมายถึง ความโรแมนติก อ่อนหวานระหว่างคุณและคนรัก,
        - ดอกทิวลิปสีแแดง หมายถึง ความรักที่จะร่วมฟันฝ่าไปด้วยกัน
        - ดอกไวโอเล็ต ที่แทนความหมายของการให้รักตอบแทน

      ช็อกโกแลต นักจิตวิทยาหลายคนเชื่อว่า ช็อกโกแลตเป็นตัวช่วยเสริมอารมณ์รัก และรสชาติความหวานก็เป็นสิ่งที่แทนความรู้สึกวันแห่งความรักได้อย่างดี และยังมีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าในช็อกโกแลตมีสารช่วยกระตุ้นสมองโดยออกฤทธิ์คล้าย แอมเฟตามีน เป็นตัวเบิกทางความรู้สึกลึกๆแห่งรักได้ดี

      การ์ด อันนี้เป็นของจําเป็นควบคู่ไปกับดอกไม้ และช็อกโกแลต เลือกตามแบบที่ชอบ เขียนความในใจตามแบบที่อยากให้คนที่ได้รับอ่านแล้วเข้าใจในทันที แถมหาซื้อไม่ยากด้วย

      ตุ๊กตา เป็นสิ่งที่ให้กันได้ทุกเทศกาลอยู่แล้ว แต่พิเศษสําหรับวันแห่งความรักคงต้องเลือกสรรให้น่ารัก น่าประทับใจแทนความหมายได้ทุกอารมณ์แล้วแต่คุณจะหยิบแบบไหน

      เทียนหอม มาแรงในหมู่หนุ่มสาวชาวไทย ที่สื่อได้ทั้งความหมายจากรูปทรงหัวใจ และให้กลิ่นหอมชวนหลงใหลตามแต่ใครจะเลือกได้ถูกใจอีกฝ่ายแค่ไหน

      ดินเนอร์ ขาดไม่ได้เลยสำหรับมื้อพิเศษในวันแห่งความรัก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แบบไหน ในบ้าน ร้านอาหาร หรือริมทะเล แต่ขอให้มีแต่คุณและคนรักไปกันสองคนก็แล้วกัน


ที่มา : http://women.thaiza.com